วันเสาร์ที่ 5 ตุลาคม พ.ศ. 2556

แนะนำหนังสือน่าอ่าน


วรรณกรรมเรื่อง  เราหลงลืมอะไรบางอย่าง                                  ตอน นักปฏิวัติ  ผู้แต่ง วัชระ  สัจจะสารสิน  




เราหลงลืมอะไรบางอย่าง ของนักเขียน วัชระ สัจจะสารสิน  ได้รับรางวัลวรรณกรรมสร้างสรรค์ยอดเยี่ยมแห่งอาเซียน (ซีไรต์)  ของประเทศไทย  ประจำปี พ.ศ.  ๒๕๕๑  เป็นหนังสือรวมเรื่องสั้นที่มีเนื้อหาผูกติดกับความเป็นไปในสังคม  เพื่อตั้งคำถามกับประชาธิปไต การปฏิวัติ ขยะการเมือง วิถีชนบทที่เสื่อมถอย   ชีวิตชาวเมืองอันแปลกแยก  ตลอดจนความเป็นปัจเจกของผู้คนในสังคมที่ไม่มีใครสนใจกันและกัน  

                 นักปฏิวัติ”  เล่าถึงนักศึกษาที่พยายามทำรายงานเรื่องนักปฏิวัติคนสำคัญของโลกเพื่อส่งอาจารย์  ทำให้เขาพบว่า    นักปฏิวัติทั้งหลายล้วนแต่มี อีโกอิสซึ่มหรือความเชื่อมั่นในตนเองสูง  และพร้อมจะต่อต้านทุกกฎเกณฑ์ที่ไร้สาระสำคัญ   นั่นทำให้เขาคิดจะเสนอรายงานหน้าชั้นโดยการสวมเสื้อยืด  แม้ว่าปกติตามระเบียบการออกไปเสนอรายงานต้องแต่งชุดนักศึกษาให้เรียบร้อย แต่ตอนนี้เขาไม่สนใจกฎใดทั้งสิ้น

               ผู้เขียนได้ตั้งคำถามผ่านการกระทำของตัวละครถึงสาระสำคัญของการปฏิวัติ  จะถูกต้องเพียงใดกับการปฏิเสธกฎเกณฑ์ที่ตั้งขึ้นเพื่อรักษาความเรียบร้อยของสังคม  ความพยายามปฏิวัติของนักศึกษาหนุ่มทำไปเพื่อยกระดับวิถีชีวิตของมวลชน  หรือเพียงเพราะเรียกร้องความสนใจให้ตัวเองโดดเด่นในฐานะคนที่ กล้า ท้าทายกรอบ  ซึ่งสิ่งที่ผู้เขียนสร้างตัวละครให้แสดงออกมานั้นสะท้อนให้เห็นถึงการใช้ทฤษฎีแนวสัจสังคมนิยม (Socialist  Realism) ที่มุ่งเสนอให้วรรณกรรมทำหน้าที่เป็นกระจกส่องสะท้อนสภาพความเป็นไปของมนุษย์และสังคมตามความเป็นจริง  โดยหวังว่าวรรณกรรมจะสามารถเป็นเครื่องมือเปลี่ยนแปลสังคมในทางที่ดีขึ้นได้


เนื้อเรื่องย่อ

       ชายผู้หนึ่งซึ่งยังอยู่ในวัยเรียนระดับอุดมศึกษา ช่วงต้นเทอมอาจารย์ได้มอบหมายให้เขาทำรายงาน แต่ตัวเขาเองกลับปล่อยปละละเลย ไร้ระเบียบในการจัดการชีวิตและการเรียน ท้ายที่สุดเขากลับตื่นตัวคิดทำรายงานเมื่อเวลาล่วงผ่านจวนเหลืออาทิตย์สุดท้าย

           คราแรกเขาคิดจะทำเรื่องมายาภาพทางการเมือง  แต่หนังสือเรื่องดังกล่าวได้มีคนยืมไปเสียแล้ว   เขาไม่มีเวลาอีกแล้วที่จะคอยหนังสือเหล่านั้นจากคนที่ยืมไป   ในที่สุดจึงก็ต้องเปลี่ยนหัวข้อรายงานมาเป็นเรื่องการปฏิวัติ    มันวาบเข้าสู่สมองเมื่อเข้าสู่ภาวะจนตรอก   เขาต้องบากหน้าไปอ้อนวอนขอเปลี่ยนหัวข้อรายงานจากอาจารย์ผู้สอน   หลังจากนั้นเขาเริ่มทำรายงานอย่างจริงจัง   
แต่การทำรายงานทุกครั้ง   ต้องจบด้วยการออกรายงานหน้าชั้นเรียน   เนื่องจากเขาเป็นคนที่ขาดความมั่นใจ ไม่กล้าแสดงออกต่อสาธารณชน ทำให้เขาตั้งใจซ้อมในการรายงานหน้าชั้นเรียนเป็นกว่าคนอื่นหลายเท่าตัว   ในขณะที่ซ้อมการนำเสนอหน้าชั้นนั้นเอง   เขามักเผลอคิดอยู่เสมอว่าว่าตัวเขาเองเป็นนักปฏิวัติระดับโลก  ที่มีท่วงทำนองและน้ำเสียงก้องกังวานชวนติดตาม   ซึ่งสิ่งที่เขาคิดนั้นช่างตรงกันข้ามกับความเป็นจริงยิ่งนัก    เพราะในชีวิตจริงเขามักจะขาดความมั่นใจในการพูดต่อหน้าสาธารณะ   และกระทำสิ่งเหล่านี้ได้ไม่ดีเอาเสียเลย   ในที่สุดการตั้งใจที่สุดในชีวิตของเขาก็ต้องสูญเปล่า   เขาไม่กล้าแม้ที่จะนั่งเรือข้ามฝั่งไปยังจุดหมายปลายทางเพื่อทำภารกิจให้สำเร็จ   มหาวิทยาลัยอยู่ฝั่งตรงข้ามไม่ไกลนัก   แต่ตัวเขากลับปฏิเสธที่จะข้ามฝั่งไปยังจุดหมาย  เขายอมแพ้ต่อตนเองเสียแล้ว   

            ในที่สุดเขาเดินทางกลับบ้านอย่างสิ้นหวัง    ความภาคภูมิใจที่ได้ทำรายงานในสิ่งที่รัก  รวมไปถึงความยิ่งใหญ่ของนักปฏิวัติที่เขาค้นคว้าตลอดสัปดาห์ได้อันตรธานหายไปจนหมดสิ้น        เมื่อกลับถึงห้องเขานิ่งคิดทบทวนเรื่องราวที่ผ่านเข้ามาในชีวิต  พร้อมทั้งกวาดสายตาไปทั่วห้อง    พื้นห้องยังรายล้อมไปด้วยฝุ่นละออง   มวลหมู่หยากไย่ขึงระโยงระยางเต็มเพดาน  กองหนังสือเกี่ยวกับเรื่องปฏิวัติยังวางอยู่กับเศษกระดาษ   และในขณะนั้นเอง  เขาจึงนึกคิดได้ว่า
ตัวเขาเองหลง และ ลืม ใจความสำคัญของการปฏิวัติที่แท้จริงไป   เพราะการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญที่อาจจะมีผลต่อชีวิตของคนส่วนใหญ่จะต้องเป็นไปเพื่อสนองอุดมการณ์และเจตนารมณ์อันบริสุทธิ์     หากคิดจะเปลี่ยนแปลงสังคม   ควรเริ่มต้นจากการปฏิวัติตนเองเสียก่อน    เขาจึงเริ่มต้นการปฏิวัติอย่างง่ายด้วยการจับไม้กวาด  และเริ่มทำความสะอาดห้องของตน


                กล่าวโดยสรุป  วรรณกรรมเราหลงลืมอะไรบางอย่าง   เรื่อง  นักปฏิวัติ  ของผู้แต่งวัชระ สัจจะสารสิน  เป็นวรรณกรรมที่ชวนตั้งคำถามให้คนในสังคมตระหนักว่า  ในขณะที่โลกเปลี่ยนแปลงไป  เราหลงลืมอะไรที่เป็นแก่นแท้ของชีวิตหรือไม่   เราคิดฝันในสิ่งที่ไกลเกินจริง  จนลืมความสำคัญของสิ่งที่ใกล้ตัว  ดังเช่น ที่ชายหนุ่มในเรื่องคิดเรื่องการเป็นนักปฏิวัติระดับโลก  จนลืมปฏิวัติระเบียบแบบแผนการใช้ชีวิตของตนเอง   ผู้เขียนใช้กลวิธีการเล่าเรื่องผ่านตัวละครซึ่งมีตัวละครเด่นเพียงคนเดียว   มีการสร้างจุดสำคัญของเรื่องให้ผู้อ่านลุ้นตามว่า  ชายหนุ่มจะตัดสินใจนั่งเรือข้ามฝั่งไปนำเสนอรายงานหรือไม่  และมีการหักมุมในท้ายเรื่อง  โดยการเขียนให้ตัวละครเลือกที่ปฏิเสธการเป็นนักปฏิวัติที่ยิ่งใหญ่แต่เลือกที่จะปฏิวัติตนเองแทน   ดังนั้น  นักปฏิวัติ”  จึงเป็นวรรณกรรมที่มีคุณค่าและให้ข้อคิดอย่างดียิ่งต่อยุคที่หลงลืมแก่นแท้ของชีวิตดังเช่นปัจจุบัน     


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น